หมวดหมู่: ข่าวประชาสัมพันธ์
พม. โดยกรมผส. ประชุมคณะอนุกรรมการพิจารณากลั่นกรองโครงการที่ขอรับการสนับสนุนโครงการที่ขอรับการสนับสนุนและกู้ยืมเงินทุนประกอบอาชีพจากกองทุนผู้สูงอายุ ครั้งที่ 10/2568

พม. โดยกรมผส. ประชุมคณะอนุกรรมการพิจารณากลั่นกรองโครงการที่ขอรับการสนับสนุนและกู้ยืมเงินทุน
ประกอบอาชีพจากกองทุนผู้สูงอายุ ครั้งที่ 10/2568
187 ราย และ 12 โครงการ ผ่านเกณฑ์การพิจารณากลั่นกรอง เปิดโอกาสใหม่สำหรับผู้สูงวัยที่ต้องการทุนในการประกอบอาชีพ

วันจันทร์ที่ 6 ตุลาคม พ.ศ. 2568 เวลา 13.30 น. นายโชคชัย วิเชียรชัยยะ อธิบดีกรมกิจการผู้สูงอายุ มอบหมายให้ นางวรรณภา สุขคง รองอธิบดีกรมกิจการผู้สูงอายุ เป็นประธานประชุมคณะอนุกรรมการพิจารณากลั่นกรองโครงการที่ขอรับการสนับสนุนและกู้ยืมเงินทุนประกอบอาชีพจากกองทุนผู้สูงอายุ ครั้งที่ 10/2568 เพื่อพิจารณา (ร่าง) ข้อกำหนดกรมกิจการผู้สูงอายุว่าด้วยคุณสมบัติขอกู้ยืม ผู้ค้ำประกัน และหลักเกณฑ์การพิจารณาให้กู้ยืมเงินทุนประกอบอาชีพจากกองทุนผู้สูงอายุประเภทรายบุคคล พ.ศ. …. เเละพิจารณากลั่นกรองการกู้ยืมเงินทุนประกอบอาชีพรายบุคคล จำนวน 187 ราย รวมทั้งพิจารณาโครงการที่ขอรับการสนับสนุนจากชมรมและองค์กรผู้สูงอายุ จำนวน 12 โครงการผ่านเกณฑ์การพิจารณา โดยมี นางสาวจารุวรรณ ศรีภักดี ผู้อำนวยการกองบริหารกองทุนผู้สูงอายุ พร้อมด้วย คณะอนุกรรมการฯ และเจ้าหน้าที่กองบริหารกองทุนผู้สูงอายุ เข้าร่วม ณ ห้องโป๊ยเซียน 705 ทรัพย์เจริญสุข ชั้น 7 กรมกิจการผู้สูงอายุ กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ และผ่านระบบ ZOOM Meeting

มหกรรมแก้หนี้ สร้างวิถีแห่งความเป็นธรรม ปีที่ 2 กรุงเทพมหานคร
เชิญชวนเข้าร่วมกิจกรรม “มหกรรมแก้หนี้ สร้างวิถีแห่งความเป็นธรรม ปีที่ 2 กรุงเทพมหานคร”
กรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ ร่วมกับ กรมบังคับคดี กระทรวงยุติธรรม กำหนดจัดกิจกรรม “มหกรรมแก้หนี้ สร้างวิถีแห่งความเป็นธรรม ปีที่ 2 กรุงเทพมหานคร” ในวันศุกร์ที่ 29 และวันเสาร์ที่ 30 สิงหาคม 2568 เวลา 09.00 – 14.00 น. ณ ศูนย์ประชุมวายุภักษ์ โรงแรมเซ็นทรา บาย เซ็นทารา ชั้น 5 ศูนย์ราชการและคอนเวนชันเซ็นเตอร์ แจ้งวัฒนะ กรุงเทพมหานคร การจัดงานครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ เปิดโอกาสให้หน่วยงานด้านการเงิน สถาบันการเงิน กองทุนการเงินประเภทต่าง ๆ และลูกหนี้ ได้เจรจาไกล่เกลี่ยหนี้ ร่วมหาทางออกด้วยสันติวิธี ลดการฟ้องคดี และสร้างความเข้าใจร่วมกันระหว่างคู่สัญญา

ในโอกาสนี้ กองทุนผู้สูงอายุ (กรุงเทพฯ ส่วนกลาง) กรมกิจการผู้สูงอายุ กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ จะเข้าร่วมงานเพื่อ รับฟังปัญหา ให้คำปรึกษา และแนะนำแนวทางแก้ไขปัญหาหนี้แก่ผู้กู้ยืมเงินทุนประกอบอาชีพและผู้ค้ำประกัน โดยมีเป้าหมายเพื่อช่วยเหลือผู้สูงอายุให้สามารถฟื้นฟูศักยภาพในการประกอบอาชีพ และรักษาสิทธิประโยชน์ที่พึงมี
เหตุผลที่ผู้กู้ยืมจากกองทุนผู้สูงอายุควรเข้าร่วมงานนี้ ดังนี้
1. โอกาสเจรจาโดยตรงกับเจ้าหน้าที่ผู้ดูแลสัญญา เพื่อหาทางออกที่เหมาะสมกับสถานการณ์ของท่าน
2. ลดความเสี่ยงจากการฟ้องคดี ด้วยการไกล่เกลี่ยและปรับโครงสร้างหนี้ในบรรยากาศที่เป็นมิตร
3. รับข้อมูลและคำแนะนำอย่างรอบด้าน ทั้งด้านกฎหมาย การจัดการหนี้ และการวางแผนฟื้นฟูอาชีพ
4. เสริมโอกาสในการกลับมาชำระหนี้ได้อย่างต่อเนื่อง ซึ่งจะช่วยรักษาสิทธิ์การเข้าถึงบริการกองทุนในอนาคต
กองทุนผู้สูงอายุมุ่งมั่นทำงานเชิงรุกเพื่อให้ผู้สูงวัยที่กู้ยืมเงินประกอบอาชีพได้รับการดูแลอย่างทั่วถึง และเชื่อมั่นว่าการมีส่วนร่วมในกิจกรรมครั้งนี้ จะเป็นอีกหนึ่งก้าวสำคัญในการสร้างความมั่นคงทางการเงินและคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นสำหรับผู้สูงอายุทุกคน
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ 0 2354 6100 ต่อ 303 นายจักรี คำสี นักพัฒนาสังคม
- สิงหาคม 14, 2568
- 5:41 pm
คณะกรรมการบริหารกองทุนผู้สูงอายุ โดย กรมกิจการผู้สูงอายุ อนุมัติการจ่ายเงินจากเงินบำรุงกองทุนผู้สูงอายุจากภาษีสรรพสามิต (สุราและยาสูบ) ปี 2568
คณะกรรมการบริหารกองทุนผู้สูงอายุ โดย กรมกิจการผู้สูงอายุอนุมัติการจ่ายเงินจากเงินบำรุงกองทุนผู้สูงอายุจากภาษีสรรพสามิต (สุราและยาสูบ) ปี 2568
คณะกรรมการบริหารกองทุนผู้สูงอายุ มีมติอนุมัติแนวทางการจ่ายเงินสงเคราะห์เพื่อการยังชีพแก่ผู้สูงอายุที่มีรายได้น้อยที่ได้รับสิทธิในโครงการลงทะเบียนเพื่อสวัสดิการแห่งรัฐ ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2568 ดังนี้
1. ให้จ่ายเงินสงเคราะห์ฯ ในอัตรา 100 บาทต่อเดือน เป็นระยะเวลา 8 เดือน (เดือนกุมภาพันธ์ – กันยายน 2568) โดยผู้สูงอายุจะได้รับเงินไม่เกิน 800 บาทต่อคน ตามเดือนที่ได้รับสิทธิ กำหนดการโอนเงินในเดือนกันยายน 2568 จำนวน 3 รอบ แบ่งกลุ่มตามวันเดือนปีเกิด โดยจะทำการโอนเงินผ่านระบบพร้อมเพย์และบัญชีเงินฝากธนาคาร ที่ผู้มีสิทธิแจ้ง ตามหนังสือให้ความยินยอมโอนเงินสวัสดิการเข้าบัญชีร่วมกับบุคคลอื่นหรือบัญชีบุคคลอื่น แบ่งเป็น
รอบที่ 1 จ่ายวันที่ 16 กันยายน 2568 รอบที่ 2 จ่ายวันที่ 17 กันยายน 2568 และรอบที่ 3 จ่ายวันที่ 18 กันยายน 2568 โดยมีรายละเอียด ดังนี้

2. ให้จ่ายเงินสงเคราะห์ฯ รายการที่โอนเงินไม่สำเร็จ (Reject) จำนวน 3 ครั้ง โดยมีรายละเอียด ดังนี้ กำหนดการโอนเงินสงเคราะห์ฯ สำหรับรายการที่โอนเงินไม่สำเร็จ (Reject)

สำหรับผู้มีสิทธิที่ไม่สามารถผูกบัญชีพร้อมเพย์กับเลขประจำตัวประชาชนได้ (กรณีผู้พิการ/ผู้ป่วยติดเตียง/ และหรือผู้สูงอายุที่มีอายุเกิน 60 ปีขึ้นไป ที่ไม่สามารถเปิดบัญชีหรือผูกพร้อมเพย์ได้) สามารถแจ้งความประสงค์ให้โอนเงินเข้าบัญชีร่วมกับบุคคลอื่นหรือเข้าบัญชีบุคคลอื่น โดยดาวน์โหลดแบบฟอร์มหนังสือให้ความยินยอมโอนเงินสวัสดิการเข้าบัญชีร่วมกับบุคคลอื่นหรือเข้าบัญชีบุคคลอื่นได้ทางเว็บไซต์โครงการลงทะเบียนเพื่อสวัสดิการแห่งรัฐ ปี 2565 (https://บัตรสวัสดิการแห่รัฐ.mof.go.th หรือ https://welfare.mof.go.th) หรือขอรับและยื่นแบบฟอร์มได้ที่กรมบัญชีกลาง หรือสำนักงานคลังจังหวัด ภายในระยะเวลาที่กำหนด หากมีข้อสงสัยสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ Call Center กรมบัญชีกลาง หมายเลข 0 2270 6400 ในวัน เวลาราชการ
- สิงหาคม 8, 2568
- 11:13 pm
พม. โดย กรม ผส. ประชุมคณะกรรมการบริหารกองทุนผู้สูงอายุ ครั้งที่ 7/2568

พม. โดย กรม ผส. ประชุมคณะกรรมการบริหารกองทุนผู้สูงอายุ ครั้งที่ 7/2568
วันพุธที่ 23 กรกฎาคม พ.ศ. 2568 เวลา 13.00 น. นายธนสุนทร สว่างสาลี อธิบดีกรมกิจการผู้สูงอายุ มอบหมายให้ นางพรนิภา มาสิลีรังสี รองอธิบดีกรมกิจการผู้สูงอายุ ร่วมประชุมคณะกรรมการบริหารกองทุนผู้สูงอายุ ครั้งที่ 7/2568 โดยมี นางจตุพร โรจนพานิช รองปลัดกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ หัวหน้ากลุ่มภารกิจด้านพัฒนาศักยภาพมนุษย์และสังคม เป็นประธานการประชุมฯ พร้อมด้วย นางสาวจารุวรรณ ศรีภักดี ผู้อำนวยการกองบริหารกองทุนผู้สูงอายุ คณะกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ ข้าราชการ และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง เข้าร่วมประชุม ณ ห้องประชุมโป๊ยเซียน 705 ทรัพย์เจริญสุข ชั้น 7 กรมกิจการผู้สูงอายุ และผ่านระบบออนไลน์ Zoom Meeting

การประชุมครั้งนี้เป็นการพิจารณาอนุมัติการกู้ยืมเงินทุนประกอบอาชีพ จำนวน 196 ราย การพิจารณาอนุมัติโครงการที่ขอรับการสนับสนุน จำนวน 13 โครงการ การพิจารณาอนุมัติแนวทางการจ่ายเงินสงเคราะห์เพื่อการยังชีพแก่ผู้สูงอายุที่มีรายได้น้อยที่ได้รับสิทธิในโครงการลงทะเบียนเพื่อสวัสดิการแห่งรัฐ ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2568 และแนวทางการจ่ายเงินสงเคราะห์ฯ ที่โอนเงินไม่สำเร็จ (Reject) ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2568 รวมทั้งการพิจารณาอนุมัติแผนงานประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2569 ของกองทุนผู้สูงอายุ

พม. โดย กรม ผส. ประชุมคณะกรรมการบริหารกองทุนผู้สูงอายุ ครั้งที่ 6/2568

พม. โดย กรม ผส. ประชุมคณะกรรมการบริหารกองทุนผู้สูงอายุ ครั้งที่ 6/2568
วันพุธที่ 25 มิถุนายน พ.ศ. 2568 เวลา 13.30 น. นายธนสุนทร สว่างสาลี อธิบดีกรมกิจการผู้สูงอายุ ร่วมประชุมคณะกรรมการบริหารกองทุนผู้สูงอายุ ครั้งที่ 6/2568 เพื่อพิจารณาอนุมัติการกู้ยืมเงินทุนประกอบอาชีพเเละอนุมัติโครงการที่ขอรับการสนับสนุนจากกองทุนผู้สูงอายุ รวมทั้งอนุมัติปรับแผนปฏิบัติการกองทุนผู้สูงอายุ ประจําปีงบประมาณ พ.ศ. 2568 (ครั้งที่ 2) โดยมี นางจตุพร โรจนพานิช รองปลัดกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ หัวหน้ากลุ่มภารกิจด้านพัฒนาศักยภาพมนุษย์และสังคม เป็นประธาน การประชุมฯ พร้อมด้วย นางสาวจารุวรรณ ศรีภักดี ผู้อำนวยการกองบริหารกองทุน ผู้สูงอายุ คณะกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ ข้าราชการ และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง เข้าร่วมประชุม ณ ห้องประชุมโป๊ยเซียน 705 ทรัพย์เจริญสุข ชั้น 7 กรมกิจการผู้สูงอายุ และผ่านระบบออนไลน์ Zoom Meeting

การประชุมครั้งนี้มีวาระสำคัญที่มุ่งเน้นการส่งเสริมคุณภาพชีวิตผู้สูงวัยไทยอย่าง รอบด้าน โดยได้พิจารณาอนุมัติให้กู้ยืมเงินทุนเพื่อการประกอบอาชีพแก่ผู้สูงอายุ จำนวน 196 ราย จาก 8 จังหวัดทั่วประเทศ เพื่อเป็นแรงสนับสนุนในการสร้างรายได้ และเสริมศักยภาพในการดำรงชีวิตอย่างมีศักดิ์ศรี พร้อมกันนี้ยังมีการพิจารณาอนุมัติ โครงการที่ขอรับสนับสนุนจากกองทุนผู้สูงอายุจำนวน 18 โครงการ ซึ่งมุ่งเน้นการดูแล ส่งเสริม และพัฒนาศักยภาพผู้สูงอายุในมิติต่าง ๆ

อีกหนึ่งประเด็นสำคัญของการประชุม คือ การอนุมัติปรับแผนปฏิบัติการกองทุนผู้สูงอายุ ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2568 (ครั้งที่ 2) โดยเฉพาะแผนด้านดิจิทัล ซึ่งสะท้อนถึงความมุ่งมั่นของกองทุนผู้สูงอายุในการพัฒนา เทคโนโลยีและระบบฐานข้อมูล เพื่อรองรับการรวบรวมและบริหารจัดการข้อมูลผู้กู้อย่างเป็นระบบ โดยมีเป้าหมายเพื่อให้สามารถจัดเก็บ และเรียกดูข้อมูลได้อย่างถูกต้อง รวดเร็ว และแม่นยำ ตลอดจนช่วยให้เจ้าหน้าที่ สามารถติดตามและดูแลคุณภาพชีวิตของผู้กู้ได้อย่างใกล้ชิดและทันท่วงที ในการพิจารณาแต่ละวาระนั้นคณะกรรมการได้ร่วมกันพิจารณารายละเอียดอย่าง รอบคอบมีการซักถามถึงความจำเป็น ความคุ้มค่าในการใช้งบประมาณ และเปรียบเทียบข้อมูลการดำเนินงานในปีที่ผ่านมา เพื่อให้มั่นใจว่าทุกโครงการจะก่อ ให้เกิดประโยชน์ต่อผู้สูงอายุอย่างแท้จริง โดยยึดหลักความโปร่งใส ตรวจสอบได้ และ การใช้ทรัพยากรอย่างคุ้มค่าที่สุด นอกจากนี้ที่ประชุมยังได้เสนอแนะแนวทางการบริหารจัดการกองทุนผู้สูงอายุ ให้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น พร้อมเน้นย้ำบทบาทของกองทุนผู้สูงอายุในฐานะกลไกสำคัญของสังคมไทยที่จะไม่เพียงเป็นที่พึ่งทางเศรษฐกิจแก่ผู้สูงวัย แต่ยังเป็นพลังขับเคลื่อนการ เปลี่ยนผ่านสู่สังคมสูงวัยอย่างมีคุณภาพ
กองทุนผู้สูงอายุเปิดช่องทางชำระหนี้ผ่านแอป BAAC Mobile (ธ.ก.ส.) และธนาคารอื่น ๆ สะดวก ปลอดภัย ไม่ต้องเดินทาง
กองทุนผู้สูงอายุเปิดช่องทางชำระหนี้ผ่านแอป BAAC Mobile (ธ.ก.ส.) และธนาคารอื่น ๆ เพิ่มความสะดวก ปลอดภัย ไม่ต้องเดินทาง
กองบริหารกองทุนผู้สูงอายุ กรมกิจการผู้สูงอายุ ได้ดำเนินการพัฒนาช่องทางการชำระหนี้ผ่านแอปพลิเคชัน BAAC Mobile (ธ.ก.ส.) และแอปธนาคารอื่น ๆ ทุกธนาคาร เพื่ออำนวยความสะดวกแก่ผู้กู้ยืมของกองทุนผู้สูงอายุ ให้สามารถดำเนินการชำระหนี้ได้อย่างสะดวก ปลอดภัย และลดภาระในการเดินทาง ทั้งนี้ การให้บริการดังกล่าวมุ่งส่งเสริมให้ผู้กู้สามารถรักษาวินัยทางการเงินได้อย่างต่อเนื่อง อันจะส่งผลดีต่อสิทธิในการเข้าถึงบริการของกองทุนในครั้งถัดไป และเป็นการสร้างความมั่นคงทางการเงินให้แก่ผู้สูงอายุในระยะยาว

ขั้นตอนการชำระหนี้ผ่านแอป BAAC Mobile (ธ.ก.ส.) และธนาคารอื่น ๆ
ผู้กู้สามารถดำเนินการชำระหนี้ได้ง่าย ๆ ดังนี้
ขอรับ “แบบฟอร์มชำระหนี้กองทุนผู้สูงอายุ (ฉบับใหม่)” ได้ที่
▪ กองทุนผู้สูงอายุ กรุงเทพฯ (ส่วนกลาง)
▪ สำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัด (ส่วนภูมิภาค) ใกล้บ้าน
▪ หรือขอรับทางออนไลน์ผ่าน LINE OA: @ODF.DOPเปิดแอปพลิเคชัน BAAC Mobile หรือแอปพลิเคชันธนาคารอื่น ๆ ที่ผู้กู้ต้องการใช้งานในการชำระหนี้
เลือกเมนูชำระเงินด้วย “วิธีสแกนบาร์โค้ด” ในแอปพลิเคชันของธนาคารนั้น ๆ แล้วใช้กล้องมือถือสแกนบาร์โค้ดจากแบบฟอร์มชำระหนี้กองทุนผู้สูงอายุฉบับใหม่
ตรวจสอบข้อมูลให้ถูกต้อง แล้วกด “ยืนยัน” เพียงเท่านี้ก็สามารถชำระหนี้ได้สำเร็จ

หมายเหตุ: กรุณาตรวจสอบข้อความเหนือบาร์โค้ดว่าระบุว่า “ชำระเงินผ่านธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตรและธนาคารอื่น ๆ” ก่อนชำระหนี้ผ่านแอปพลิเคชัน BAAC Mobile หรือแอปธนาคารอื่น ๆ ทุกครั้ง เพื่อให้การชำระเงินเป็นไปอย่างถูกต้องในการชำระหนี้
การชำระหนี้สามารถดำเนินการได้ ระหว่างวันที่ 1–5 ของทุกเดือน ไม่จำเป็นต้องเดินทางมาที่สำนักงานอีกต่อไป
“ชำระคืนไว ส่งต่อโอกาสใหม่ให้เพื่อนผู้สูงวัย เข้าถึงกองทุนผู้สูงอายุ”
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม โทร. 0 2354 6100 ต่อ 402
- มิถุนายน 27, 2568
- 7:31 pm
หัวใจของนักสังคมสงเคราะห์
เรื่องราวของ “พี่มุ่ย” ธัญธิตา พุ่มอิ่ม ผู้หญิงธรรมดาที่ศรัทธาในอาชีพ…จนกลายเป็นพลังพิเศษของระบบราชการ
“เราอาจช่วยเขาไม่ได้ทั้งหมด แต่แค่เขายิ้มได้ มีแรงจะลุกขึ้นอีกครั้ง เราก็มีความสุขไปด้วยแล้ว” เสียงจากใจของ พี่มุ่ย – ธัญธิตา พุ่มอิ่ม ผู้อำนวยการกลุ่มบริการ กองบริหารกองทุนผู้สูงอายุ อาจเป็นคำพูดที่เรียบง่าย แต่กลับสะท้อนสาระสำคัญของอาชีพ “นักสังคมสงเคราะห์“ ได้ชัดเจนที่สุด อาชีพที่ต้องทำด้วย “หัวใจ” ไม่ใช่แค่ “หน้าที่”
กว่าสองทศวรรษบนเส้นทาง “ศรัทธาในคุณค่าของมนุษย์”
สำหรับพี่มุ่ยการทำงานในฐานะนักสังคมสงเคราะห์ ไม่ใช่แค่อาชีพ แต่คือภารกิจชีวิต ตลอดเวลากว่า 20 ปีในระบบราชการ เธอไม่ได้เพียงยึดมั่นในบทบาท แต่เธอยัง “ศรัทธา” ในพลังของมนุษย์คนหนึ่งที่พร้อมจะลุกขึ้นใหม่ หากได้รับโอกาส พี่มุ่ยเริ่มต้นจากตำแหน่งนักสังคมสงเคราะห์ 3 เดินทางผ่านงานด้านคนพิการ ผู้หญิง เด็ก เยาวชน และในช่วงปลายของชีวิตราชการ เธอได้รับมอบหมายให้ดูแลงานด้านผู้สูงอายุ ซึ่งเปลี่ยนจากโครงการช่วยเหลือแบบครั้งคราวไปสู่การสร้างระบบสนับสนุนอย่างยั่งยืนผ่านกองทุนผู้สูงอายุ “เราไม่ได้แค่ให้เงินแต่เราต้องทำให้เขาเชื่อว่าตัวเขายังมีคุณค่าเพราะบางครั้งศักดิ์ศรีของมนุษย์มันอยู่ที่การลุกขึ้นยืนได้อีกครั้ง ไม่ใช่แค่การรอความช่วยเหลือ” ประสบการณ์การช่วยหญิงสาวติดเชื้อ HIV/AIDS รายหนึ่งให้มีอาชีพกลายเป็นทั้งแรงบันดาลใจ และหัวข้อวิจัยระดับปริญญาโทในหัวข้อ “การสร้างพลังอำนาจในตัวเองของสตรีที่ติดเชื้อ HIV/AIDS” ซึ่งเป็นเครื่องยืนยันว่าการพัฒนาสังคมไม่ใช่เรื่องของโครงการ แต่คือความต่อเนื่องของความสัมพันธ์ระหว่าง “รัฐ” กับ “ประชาชน” อย่างแท้จริง

การฟังอย่างแท้จริงคือเครื่องมือสำคัญที่สุดของนักสังคมสงเคราะห์
แม้พี่มุ่ยจะเคยดำรงตำแหน่งในสำนักงานส่งเสริมสวัสดิภาพและพิทักษ์เด็ก เยาวชน ผู้ด้อยโอกาส และผู้สูงอายุ มานานนับสิบปีแต่การย้ายมาทำงานด้านผู้สูงอายุที่ดูเหมือนเป็น “กลุ่มเป้าหมายปลายทาง” กลับกลายเป็นช่วงเวลาที่เธอรู้สึกว่าได้กลับมายืนอยู่ในพื้นที่ของ “หัวใจมนุษย์” อย่างแท้จริงผู้สูงวัยไม่ได้ต้องการอะไรซับซ้อน พวกเขาแค่อยากมีคนฟัง และไม่ถูก มองข้าม สำหรับพี่ มันเหมือนคุยกับพ่อแม่ที่บ้าน มันคือความอ่อนโยนที่เราพกมาตั้งแต่เด็ก เธอเชื่อว่าผู้สูงอายุยังมีศักยภาพ แม้ร่างกายจะเปลี่ยนไป และนั่นคือเหตุผลที่งานของนักสังคมสงเคราะห์ต้องมองข้ามตัวเลขอายุ ไปยัง “ทุนชีวิต” ที่แต่ละคนแบกมาเพื่อจะสามารถออกแบบการสนับสนุนที่เหมาะสมกับศักยภาพนั้นได้
นอกจากนี้กองทุนผู้สูงอายุยังเชื่อมโยงกับการพัฒนาทักษะอาชีพผ่านการให้เงินสนับสนุนชมรม/องค์กรของผู้สูงอายุ และองค์การเอกชน ที่ได้รับการรับรองเป็นองค์กรสาธารณประโยขน์ ดำเนินกิจกรรมเกี่ยวกับการคุ้มครอง ส่งเสริม สนับสนุนผู้สูงอายุอีกด้วย เพื่อให้ผู้สูงวัยไม่ได้รับแค่ “เงินทุน” แต่ยังได้รับ “เครื่องมือ” ที่จะยืนหยัดอยู่ได้ด้วยตนเองอย่างยั่งยืน
นักสังคมสงเคราะห์ = ผู้อยู่กับความเจ็บปวด…โดยไม่หันหน้าหนี
ในการนิยามอาชีพของตัวเอง พี่มุ่ยไม่ได้พูดถึงภารกิจในเชิงโครงการหรือระเบียบราชการแต่กลับ พูดถึง “หัวใจ” อย่างเรียบง่ายแต่ทรงพลัง “มันไม่ใช่แค่อาชีพ แต่มันคือหัวใจของคนที่เลือกจะอยู่กับความเจ็บปวดของคนอื่นเพื่อจะทำให้เขากลับมายืนได้อีกครั้ง” นักสังคมสงเคราะห์ไม่ใช่ผู้แก้ปัญหาแทน แต่คือคนที่ไม่ ละสายตาไปจากผู้ที่อยู่ในภาวะเปราะบาง คอยอยู่ตรงนั้นแม้ในวันที่ทุกคนเดินผ่านไป และนั่นคือบทบาทที่ไม่มีระบบราชการใดระบุไว้เป็นลายลักษณ์อักษรแต่ฝังอยู่ในวัฒนธรรมวิชาชีพที่ต้องสั่งสมผ่านประสบการณ์ และหัวใจ
ถอดบทเรียนเพื่อส่งต่อไฟในมือคนรุ่นใหม่
หลังจากรับราชการกว่า 20 ปีแต่สิ่งที่เธอฝากไว้ไม่ใช่เพียงแฟ้มงาน หรือผลสัมฤทธิ์ในรายงาน หากคือแนวคิดที่สำคัญอย่างยิ่งต่ออนาคตของงานสังคมสงเคราะห์ในประเทศไทย “การทำงานราชการอาจมีข้อจำกัด แต่อย่าลืมว่าความศรัทธาในอาชีพคือพลังที่ทำให้เรายังเปลี่ยนชีวิตใครบางคนได้ แม้จะเป็นแค่หนึ่งคนในร้อยคน” ในระบบที่อาจเคลื่อนตัวช้า ในพื้นที่ที่นโยบายยังไม่สมบูรณ์บทบาทของคนตัวเล็ก ๆ ที่มีหัวใจใหญ่มาก ๆ นั้น คือหัวใจของระบบสวัสดิการทั้งหมด
หัวใจนั้น จะยังอยู่ต่อไปในมือของคุณ
แม้จะวางมือจากตำแหน่ง แต่พี่มุ่ยไม่ได้วางหัวใจเธอฝากแรงบันดาลใจไว้ในทุกไฟล์งานที่ยังหมุนอยู่ในระบบ ฝากไว้ในทุกบทสนทนาที่เคยรับฟังผู้คนและที่สำคัญฝากไว้ในความกล้าหาญของนักสังคมสงเคราะห์ รุ่นใหม่ทุกคน “อย่ากลัวที่จะฟัง อย่ากลัวที่จะรู้สึก และอย่ากลัวที่จะเปลี่ยนบางอย่าง เพราะนั่นคือสิ่งที่คนในวิชาชีพนี้ควรจะกล้าทำ…แม้จะอยู่ในกรอบของระบบ”
หากคุณเป็นนักสังคมสงเคราะห์ หรือผู้ปฏิบัติงานในรัฐ บทสัมภาษณ์นี้ไม่ใช่แค่เรื่องเล่าจากรุ่นพี่ แต่คือ บทเรียนแห่งการศรัทธาในมนุษย์ ที่รอการส่งต่อในมือคุณ
- มิถุนายน 4, 2568
- 2:07 pm
พม. โดย กรม ผส. ประชุมคณะกรรมการบริหารกองทุนผู้สูงอายุ ครั้งที่ 5/2568

พม. โดย กรม ผส. ประชุมคณะกรรมการบริหารกองทุนผู้สูงอายุ ครั้งที่ 5/2568
วันพุธที่ 28 พฤษภาคม 2568 เวลา 13.30 น. นายธนสุนทร สว่างสาลี อธิบดีกรมกิจการผู้สูงอายุ มอบหมายให้ นางพรนิภา มาสิลีรังสี รองอธิบดีกรมกิจการผู้สูงอายุ เข้าร่วมการประชุมคณะกรรมการบริหารกองทุนผู้สูงอายุ ครั้งที่ 5/2568 เพื่อพิจารณาการอนุมัติการกู้ยืมเงินทุนประกอบอาชีพจากกองทุนผู้สูงอายุ เเละอนุมัติโครงการที่ขอรับสนับสนุนจากกองทุนผู้สูงอายุ โดยมี นางจตุพร โรจนพานิช รองปลัดกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ หัวหน้ากลุ่มภารกิจด้านพัฒนาศักยภาพมนุษย์และสังคม เป็นประธานการประชุมฯ พร้อมด้วย นางสาวจารุวรรณ ศรีภักดี ผู้อำนวยการกองบริหารกองทุนผู้สูงอายุ กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ และผู้แทนหน่วยงาน ข้าราชการและเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง เข้าร่วมประชุม ณ ห้องประชุมโป๊ยเซียน 705 ทรัพย์เจริญสุข ชั้น 7 กรมกิจการผู้สูงอายุ และผ่านระบบประชุมทางไกล Zoom Meeting

การประชุมในครั้งนี้มีวาระสำคัญเพื่อพิจารณาอนุมัติการกู้ยืมเงินทุนประกอบอาชีพจากกองทุนผู้สูงอายุรายบุคคล จำนวน 193 ราย และสนับสนุนโครงการอีก 5 โครงการ ซึ่งสะท้อนถึงความมุ่งมั่นของกองทุนในการสร้างโอกาสในการประกอบอาชีพอย่างมั่นคง และยั่งยืนให้แก่ผู้สูงอายุทั่วประเทศ
นอกจากนี้ คณะกรรมการยังให้ความสำคัญกับประเด็นเร่งด่วนที่เกี่ยวข้องกับ การลดปัญหาการรอคิวของผู้ที่ยื่นขอรับบริการกู้ยืมเงินทุนเพื่อประกอบอาชีพ โดยได้หารือแนวทางการบริหารจัดการที่มีประสิทธิภาพมากขึ้น เพื่อตอบสนองต่อความต้องการของผู้สูงวัยได้อย่างทันท่วงที ควบคู่กับการเน้นย้ำเรื่อง การติดตามหนี้ ที่ต้องดำเนินการด้วยความรอบคอบ และคำนึงถึงสภาพความเป็นอยู่ของผู้กู้เป็นสำคัญ
อีกหนึ่งประเด็นสำคัญในที่ประชุม คือการพิจารณา ร่างข้อกำหนดเกี่ยวกับคุณสมบัติของผู้กู้ ผู้ค้ำประกัน และหลักเกณฑ์การพิจารณาการให้กู้ยืมเงิน ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของการพัฒนากระบวนการให้บริการกองทุนผู้สูงอายุให้มีมาตรฐานมากยิ่งขึ้น โดยคณะกรรมการมีข้อเสนอให้ฝ่ายเลขานุการนำร่างข้อกำหนดดังกล่าวกลับไปทบทวน วิเคราะห์ และปรับปรุงในบางประเด็นเพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดแก่ผู้สูงอายุ ก่อนนำเสนอเข้าสู่ที่ประชุมอีกครั้ง
การประชุมครั้งนี้ถือเป็นอีกก้าวหนึ่งของการขับเคลื่อนกองทุนผู้สูงอายุอย่างมีเป้าหมาย ภายใต้หลักคิดที่ว่า “การให้โอกาสทางอาชีพ คือการลงทุนในศักดิ์ศรีและศักยภาพของผู้สูงวัย” กองทุนผู้สูงอายุยืนยันเจตนารมณ์ที่จะดูแล สนับสนุน และส่งเสริมผู้สูงอายุอย่างรอบด้าน เพื่อสร้างสังคมที่ไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง
พม. โดยกรมผส. จัดโครงการอบรมเชิงปฏิบัติการเพื่อพัฒนาศักยภาพในการประกอบอาชีพแก่ผู้กู้ยืมเงินทุน รุ่นที่ 2
พม. โดยกรมผส. จัดโครงการอบรมเชิงปฏิบัติการเพื่อพัฒนาศักยภาพในการประกอบอาชีพ
แก่ผู้กู้ยืมเงินทุน รุ่นที่ 2

วันศุกร์ ที่ 23 พฤษภาคม 2568 เวลา 8.30 น. กองบริหากองทุนผู้สูงอายุ กรมกิจการผู้สูงอายุ เดินหน้าขับเคลื่อนภารกิจส่งเสริมศักยภาพผู้สูงวัยอย่างต่อเนื่องผ่านการจัดโครงการอบรมเชิงปฏิบัติการเพื่อพัฒนศักยภาพในการประกอบอาชีพแก่ผู้กู้ยืมเงินทุน รุ่นที่ 2 ณ ห้องภาณุรังษี เอบี โรงแรมรอยัล ริเวอร์ กรุงเทพมหานคร โดยมี นางวาสนา ทองจันทร์ รอ’อธิบดีกรมกิจการผู้สูงอายุ เป็นประธานเปิดโครงการ

การอบรมครั้งนี้ออกแบบอย่างเข้มข้น ทั้งในด้านเนื้อหา และการฝึกปฏิบัติจริง เพื่อให้ผู้สูงอายุที่ได้รับเงินทุนสามารถบริหารจัดการอาชีพของตนเองได้อย่างยั่งยืน ผู้เข้าร่วมได้เรียนรู้ทั้งเรื่องกฎหมาย และระเบียบที่เกี่ยวข้องกับการกู้ยืมเงินทุน เทคนิคการจัดการเงินทุนหมุนเวียนในชีวิตจริง รวมถึงการสร้างอาชีพด้วยการพิมพ์ลายผ้าจากวัสดุธรรมชาติ ซึ่งช่วยต่อยอดเป็นรายได้เสริมอย่างสร้างสรรค์ นอกจากนี้ยังมีการอบรมกลุ่มย่อยในหัวข้อที่ทันสมัยอย่าง “การรู้จักใช้ AI เพื่ออาชีพผู้สูงอายุยุคใหม่” ซึ่งได้รับความร่วมมือจากทีมวิทยากรจากศูนย์วิจัยการจัดการความรู้การสื่อสารและพัฒนา(CCDKM) มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช ที่มาเติมเต็มมุมมองด้านเทคโนโลยีให้กับผู้สูงวัยได้อย่างเข้าใจง่ายและนำไปประยุกต์ใช้ได้จริง
